เมื่อเวลา 09.00 น. 14 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายจอห์น อายุ 46 ปี สัญชาติปากีสถาน ครูสอนภาษาอังกฤษและนักจิตวิทยา ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราลูกศิษย์และพรากผู้เยาว์ เชื่อว่าเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งก่อนถูกจับ
เบื้องต้น นายจอห์นยังคงให้การปฏิเสธ
โดยบอกว่าตนเข้าเมืองไทยมานานกว่า 20 ปี และคบหาแต่งงานกับสาวชาวไทย มีลูกด้วยกัน ได้ดำเนินการขอวีซ่าขอดูแลครอบครัว อีกทั้งช่วงที่อยู่เมืองไทยก็รับจ้างสอนภาษาให้กับเด็กไทย เนื่องจากตนนั้นจบปริญญาเอกด้านจิตวิทยาจากต่างประเทศ ในส่วนนี้ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะดำเนินการเพิกถอนวีซ่า และบังคับใช้กฎหมายอย่างถึงที่สุด และจะผลักดันออกนอกประเทศต่อไป
วันที่ 14 ม.ค. นางนันทวรรณ วิจิตรวาทการ คณบดี วิทยาลัยโลกคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ ว่าเข้าขั้นวิกฤติ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบทางสุขภาพทันทีคือ เด็ก เนื่องจากปอดอยู่ในช่วงกำลังพัฒนา และคนสูงวัยซึ่งร่างกายเริ่มถดถอย รวมถึงผู้ป่วยโรคประจำตัว
นางนันทวรรณ จึงเสนอว่ารัฐบาลต้องมีมาตราการระยะสั้น เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยเสนอให้รัฐบาลประกาศหยุดงานทันที 1-2 วัน เพื่อลดต้นตอปัญหาของฝุ่นควันอันเกิดจากยานพาหนะและโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนระยะยาวต้องทบทวนกระบวนการที่เกี่ยวข้อกับการใช้เชื้อเพลิงทั้งระบบ และเลือกใช้พลังงานที่ก่อให้เกิดมลพิษน้อย เมื่อถามถึง มาตราการฉีดน้ำของรัฐบาลคสช. นางนันทวรรณ กล่าวว่า ไม่ช่วยอะไร เพราะฝุ่นบนท้องถนนเป็นฝุ่นขนาดใหญ่ ไม่ใช่ละอองฝุ่นขนาดเล็กที่ลอยอยู่ในอากาศ ซึ่งมันตกอยู่ที่พื้นอยู่แล้ว
เมื่อเวลา 06.30 น. ของวันที่ 14 ม.ค. เกิดเหตุนักศึกษาหญิงชั้นปี 4 วิทยาลัยแห่งหนึ่งในตัวเมืองตาก กระโดดจากโป๊ะเวทีกลางน้ำปิง ลงไปเกาะลวดสลิงที่ยึดโป๊ะอยู่อย่างแน่น ชาวบ้านจึงรีบโทรเเจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยไปถึงได้ช่วยกันเกลี้ยกล่อม ไม่ให้หญิงสาวสั้นด้วยการปล่อยมือจากลวดสลิง ก่อนจะช่วยรับตัวขึ้นมาอย่างปลอดภัย สอบสวนได้ความว่า หญิงสาวมีปัญหากับความรักไม่สมหวัง พยายามง้อคืนดีกับแฟนหนุ่ม แต่ไม่สำเร็จ จึงตัดสินใจกระโดดน้ำตายเพื่อประชดรัก แต่อาจเปลี่ยนใจ เมื่อกระโดดลงไปแล้วจึงเกาะลวดสลิงไว้
นับเป็นเรื่องน่ายินดี หลังจากร้านสะดวกซื้อ 7-11 สร้างแคมเปญ รณรงค์ลดใช้ถุุงพลาสติก “ลดวันละถุง คุณทำได้” จูงใจด้วยการเปลี่ยนยอดการลดใช้เป็นเงิน 20 สตางค์ต่อถุง เพื่อนำไปบริจาคซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้โรงพยาบาลศิริราช โดยระยะเวลาเพียง 1 เดือนเศษ สามารถลดการใช้ถุงพลาสติกได้กว่า 102,323,402 ใบ ทำให้ยอดเงินบริจาค จากวันที่เริ่มโครงการ 7 ธันวาคม 2561 จนถึงวันที่ 13 มกราคม 2562 คิดเป็นจำนวน 20,464,681 บาท
หนุ่มวัย 41 งง โรงพยาบาลแจ้งตัวเองเสียชีวิต คาดโดนสวมบัตรประชาชน
เมื่อวันที่ 22 ม.ค. Workpoint News รายงานว่า นายหมัดโสด สายสะอิด อายุ 41 ปี เปิดเผยว่า วันที่ 19 ม.ค. เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสงขลาได้โทรศัพท์มาหาญาติ บอกว่าตนป่วยหนักอยู่ห้องไอซียู ดังนั้น ญาติจึงไปและพบว่าชื่อผู้ป่วยตรงกัน ต่อมาผู้ป่วยคนดังกล่าวได้เสียชีวิต พอญาติเปิดหน้าศพกลับไม่ใช่ คาดว่าน่าจะโดนสวมบัตรประชาชน เพราะข้อมูลตรงกันทุกอย่าง ยกเว้นรูปถ่าย
ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าตอนที่ตนเคยทำบัตรประชาชนหล่นหาย น่าจะมีคนพบและนำไปสวมชื่อแทน แถมเอาไปใช้รักษาพยาบาลและสมัครงานขายไอศกรีมด้วย
นายฉัตรชัย ทองชาติ ผู้ที่รู้จักกับผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ไม่ทราบประวัติผู้ตาย แต่รู้ว่าเป็นคนขายไอศกรีม และมาช่วยงานที่วัดแหลมทราย นอนที่วัดเป็นครั้งเป็นคราว โดยวันเกิดเหตุมีอาการป่วยหนักอาเจียนเป็นเลือด ขอให้ตนแจ้งกู้ภัยมาส่งโรงพยาบาล ขณะเดียวกัน นายไชยพร นิยมแก้ว นายอำเภอเมืองสงขลา กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่สรุปว่ามีการสวมตัวหรือไม่ ต้องนำคนที่มีชีวิตอยู่มาสอบสวน ซึ่งเกิดได้ทั้งความบังเอิญ เลินเล่อ หรือทุจริต
วันที่ 21 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านทุ่งสว่าง ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ว่ามีคนทยอยวางยาเบื่อสุนัขคนในหมู่บ้านตายมากกว่า 10 ตัว แต่ไม่ทราบว่าเป็นฝีมือของใคร และที่น่าสลดใจยิ่งกว่านั้น คือแม่สุนัขที่ลูกถูกวางยาเบื่อตายนั่งเฝ้าศพลูกไม่ห่างทั้งส่งเสียงร้องครวญครางและเดินไปเลียที่ศพลูก คล้ายกับจะเรียกให้ลูกตื่น
ไม่ใช่ครั้งแรกที่สุนัขถูกวางยาเบื่อตาย ที่ผ่านมาไม่มีใครกล้าออกมาพูดเพราะไม่อยากจะมีปัญหา แต่ครั้งนี้ทนไม่ไหว จึงอยากให้มีการนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปเผยแพร่ เพราะอยากให้ผู้คนได้รับรู้ว่ายังมีคนจิตใจโหดเหี้ยมที่ทำกับสัตว์เลี้ยงได้ลงคอเหมือนไม่รู้สึกผิดบาปอะไรเลย
ล่าสุด นายชนพัฒน์ เกตุแก้ว ปศุสัตว์อำเภอเมืองบุรีรัมย์พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว ซึ่งสุนัขที่ทยอยตายปริศนาหลายตัวนั้น ก็เกิดได้หลายกรณีทั้งการวางยา หรือติดเชื้อไวรัส ทางปศุสัตว์ก็จะได้ประสานงานกับทาง อบต. และผู้นำชุมชน เพื่อเรียกชาวบ้านมาพูดคุยทำความเข้าใจ เรื่องการเลี้ยงสัตว์อย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อโรคต่างๆ พร้อมทั้งจะได้ให้ความรู้เกี่ยวกับ พ.ร.บ.โรคพิษสุนัขบ้า และ พ.ร.บ.การทารุณกรรมสัตว์ด้วย เพราะการวางยาเบื่อสุนัขถือเป็นการกระทำทารุณกรรมสัตว์ เป็นความผิด มีโทษตามกฎหมาย
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป